Thursday, April 12, 2012

PROJECT 2012/2 Zoo

ZOO

     โปรเจคนี้เป็นไฟนอลโปรเจคของปี3 เทอม2 และเป็นโปรเจคที่ผมชอบมากที่สุด เพราะได้ออกแบบเกี่ยวกับสวนสัตว์ โดยสามารถใส่ตีมและความคิดได้ค่อนข้างเต็มที่ ผลงานจึงออกมาค่อนข้างน่าพอใจสำหรับผมมาก
     โปรเจคนี้อาจารย์ให้รูปแบบของพื้นที่มา โดยเราต้องทำไปคิดเองต่อว่า จะตั้งไว้ที่ไหน อย่างไร ให้มีความสัมพันธ์กันกับแนวคิดและตีมที่จะนำมาเลือกใช้ ซึ่งพื้นที่ที่ผมได้เลือกมา คือ บริเวณของอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ที่มีพื้นที่อยู่ในระหว่างจังหวัดเพชรบูรณ์กับพิษณุโลก ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีฉายาว่าเป็น สะวันน่าแห่งประเทศไทย ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับคอนเสปในใจของผม นั่นก็คือสวนสัตว์แบบแอฟริกา


     ที่นี้พอได้ตัวพื้นที่แล้ว ผมก็ลองมาหาข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่ พบว่ามีบางส่วนที่มีป่าดิบชื้นกับทุ่งหญ้าสะวันน่าอยู่ด้วยกัน และยังมีสภาพพื้นที่ที่คล้ายาคลึงกับไซต์ตัวอย่างที่อาจารย์ให้มา ก็เลยลงล็อกพอดี ได้เป็นตีมของการ์ตูนสองเรื่อง คือ ทาร์ซาน กับไลอ้อน คิง ซึ่งในทั้งสองตีมจะถูกจัดอยู่แยกกันบนพื้นที่ที่ลงตัว และมีสภาพใกล้เคียงกับพื้นที่ของแต่ละโซน
    ดังนั้น ทาร์ซานก็เลยได้ไปอยู่บนภูเขา ตามสภาพป่าดิบชื้น โดยมีคอนเสปหลักคือการสร้างความใกล้ชิดระหว่างคนกับสัตว์ตามแบบของตัวละครในเรื่อง โซนทุ่งหญ้าสะวันน่าก็เป็นของไลอ้อนคิง เป็นโซนที่ปล่อยให้สัตว์อยู่ในบริเวณกว้างๆ มีรถนั่งชม พยายามให้คนได้เห็นถึงความใกล้ชิดของสัตว์กับสัตว์


     สัตว์ที่เลือกมาใช้จะเป็นสัตว์ที่พบได้ในแอฟริกาทั้งหมด และมีการแบ่งเอาสัตว์นักล่าและสัตว์กินพืชออกจากกัน ในทั้งสองโซน โดยใช้หลักการเดียวกันคือเอาสัตว์กินพืชให้เข้าถึงได้ก่อน และแบ่งสัตว์ตามลักษณะพื้นที่ที่มันอาศัยอยู่จริง เช่น สัตว์นักล่าอย่างเสือดาวอาศัยในป่าจึงอยู่ในโซนทาร์ซาน ส่วนสัตว์นักล่าอย่างเสือชีต้าร์อยู่ในทุ่งหญ้าจึงอยู่ในโซนไลอ้อน คิง
  
 

    งานนี้จะมีเน้นตีมบ้างเล็กน้อยเพราะอาจารย์ประจำกลุ่มเน้นตรวจเรื่องฟังก์ชั่ันมากกว่า งานนี้เราเลยคิดวิธีดูสัตว์ได้ค่อนข้างอิสระ พยายามเอาส่วนประกอบบางอย่างในการ์ตูนเข้ามาใช้ในการช่วยเดินดูสัตว์ ทำให้ผู้เข้าชมไม่ได้เพียงแค่มาเพื่อดูสัตว์ต่างๆอย่างเดียว แต่จะได้ความสนุกสนานจากวิธีการดูสัตว์แบบใหม่ๆ ที่แตกต่างกันออกไป


      มาดูในส่วนของโมเดลกันก่อนครับ เป็นโซนของสะวันน่าฝั่งสัตว์นักล่า โซนนี้ก็จะมีพื้นที่สองอย่างก็คือส่วนที่เป็นการเดินชม กับส่วนที่นั่งรถชม บรรยากาศของโซนนี้ก็จะค่อนข้างร้อน มีต้นไม้น้อยหน่อย แต่ในส่วนเดินชมจะได้ร่มเงาจากภูเขาเพราะอยู่ทางทิศเหนือ จึงทำให้ไม่ร้อนมากนัก


    มุมมองจากทางเข้าโซน เราจะแห่งหน้าผาทรนงในเรื่องไลอ้อน คิงอย่างเด่นชัด เพราะตั้งใจทำให้มันโอเวอร์สเกล และบริเวณนั้นก็ยังเป็นบริเวณจัดแสดงสิงโตอีกด้วย


      การเข้าชมในบริเวณนี้จะต้องโดยสารรถของสวนสัตว์เข้ามา ซึ่งหากต้องการจะลงเดินก็จะต้องหยุดก่อนลงและขึ้นรถคันต่อไปเพื่อชมสัตว์ ต่างๆ การชมสัตว์ในพื้นที่บริเวณนี้ก็จะใช้การนั่งรถเพื่อนำชม โดยกั้นสัตว์ในแบบคูเปียกและคูแห้ง โดยมีการลดระดับถนนบางช่วง หรือลดระดับพื้นที่สัตว์บางชนิด เพื่อให้รับรู้ความรู้สึกที่ต่างกัน จากมุมมองที่ต่างออกไป เช่น สิงโต เสือชีต้าร์ก็จะอยู่ในระดับที่สูงกว่าถนน ทำให้รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ แต่พวกหมาไฮยีน่าที่เป็นสัตว์กินซาก เราจะอยู่สูงกว่า และกดระดับพื้นที่สัตว์ลงไป เป็นวิธีการกั้นพื้นที่อีกวิธีหนึ่งเช่นกัน


 กรงที่คนจะสามารถเดินเข้าไปได้ เพื่อดูจระเข้ที่ขึ้นมาผึ่งแดดอย่างใกล้ชิด


    จากส่วนของวอร์กกิ้งโซน เราก็จะสามารถเดินข้ามถนนมายังหน้าผาด้านนี้เพื่อขึ้นไปดูสิงโตขาวได้ด้วย ให้อารมณ์เหมือนเราไปยืนบนหน้าผาในเรื่องไลอ้อนคิงเลยทีเดียว นอกจากนี้อาคารเซอร์วิสก็ยังทำเป็นรูปทรงภูเขา ให้ดูกลมกลืนเป็นธรรมชาติไปกับพื้นที่

พื้นที่ส่วนวอร์กกิ้งโซน หลังจากลงรถมา
สัตว์ตัวแรกที่จะเห็นก็คือตัวแบดเจอร์ นักล่าขนาดเล็ก

 โรงภาพยนตร์ที่ออกแบบมาเป็นโครงกระดูกช้างตามเนื้อเรื่อง เป็นไฮไลต์ของโซนนี้
จากพื้นที่บริเวณนี้สามารถมองดูเสือชีต้าร์และสิงโตได้

     พื้นที่ส่วนวอร์กกิ้งโซน จะจัดแสดงสัตว์สองชนิดคือ จระเข้แอฟริกาและตัวแบดเจอร์ เพราะไฮไลต์ของพื้นที่นี้คือโรงภาพยนตร์ที่ฉายความเป็นอยู่ และวิธีการล่าเหยื่อของสัตว์ และเราก็สามารถมองเห็นสัตว์บางชนิดจากสะวันน่าโซนได้เลยที่บริเวณนี้เช่นกัน

     นอกจากนี้แล้วพื้นที่บริเวณนี้ยังมีเกาะกลางน้ำ ไว้สำหรับให้นกมาอาศัยอยู่ตามธรรมชาติได้อีกด้วย โดยน้ำที่น้ำมาใช้ในพื้นที่ เป็นการดึงน้ำจากทางน้ำหลักที่ไหลจากภูเขา และขุดให้เป็นแอ่งเก็บน้ำขนาดใหญ่ เพื่อสามารถใช้น้ำนั้นในประโยชน์หลายๆอย่าง เช่นใช้เป็นพื้นที่แสดงจระเข้ และสำหรับเป็นคูน้ำกั้นสัตว์ โดยจระเข้จะไม่สามารถออกมายังบริเวณคูได้เพราะมีการใช้รั้วเหล็กป้องกันไว้อีกทางหนึ่ง
    
     สำหรับเพลตและโซนอื่นๆจะเอามาให้ดูอีกทีนะครับ เพราะว่าลืมเอาไว้ที่หอ ^____________^

PROJECT 2011/2 Space in Landscape

Space in Landscape

     คราวนี้เป็นวิชาเลือกอีกตามเคยนะครับ แต่เป็นวิชาของคณะ  Space in Landscape เป็นวิชาที่เรียนเกี่ยวกับการนำหลักการออกแบบเข้ามาใช้กับการออกแบบแลนด์สเคป สำหรับงานชิ้นนี้เป็นการออกแบบ Room ครับ


 ภาพจากมุมแปลน (ซ้าย) และภาพแสดงการเชื่อมต่อระหว่างลานพลาซ่ากับสวนสุขภาพ (ขวา)

     Room ที่ว่าก็คือ Space ที่มีลักษณะเป็นห้อง มีการโอบล้อมหรือปิดล้อม อาจจะเป็นทุกทางหรือทางใดทางหนึ่ง

 ลานพลาซ่าในสวน

     ผมก็เลยออกแบบมาโดยให้เป็นลักษณะของสวนสไตล์อังกฤษ สำหรับสุขภาพและการบำบัด มีลานน้ำพุที่บำบัดในเรื่องของเสียง สวนสุขภาพที่ปลูกไม้มีดอกและกลิ่นหอม แล้วก็สระว่ายน้ำที่ออกแนวเป็นสปาเป็นหลักครับ

สปาในรูปแบบของสระว่ายน้ำ

บริเวณของสวนสุขภาพติดกับแหล่งน้ำธรรมชาติและลานพลาซ่า





PROJECT 2010/2 Community Center


Community Center

      สำหรับโปรเจคนี้ เป็นไฟนอลโปรเจคของช่วงปี2 เทอม2 เป็นงานออกแบบศูนย์ชุมชนให้กับบริเวณชุมชนชินเขต โดยมีแนวคิดคือการเปลี่ยนพื้นที่ชุมน้ำเดิมที่มีสภาพไม่เหมาะสมให้เป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ และสร้างพื้นที่ให้คล้ายเป็นพื้นที่ป่า สำหรับงานชิ้นนี้จะนำเสนอเฉพาะโมเดลนะครับ เพราะว่าเพลทเสียไปกับน้ำท่วมแล้ว T^T

 ศูนย์ชุมชนเข้าถึงได้โดยเส้นทางรถยนต์(สีเทา)และเส้นทางจักรยาน(สีน้ำตาล)

     บริเวณส่วนทางเข้าโครงการ จะแยกเส้นทางเข้าจักรยานและรถยนต์ออกจากกัน โดยโซนทางเข้าด้านหน้าจะมีพื้นที่สำหรับจอดรถยนต์ และร้านค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน

 โซน Active ตั้งอย่ติดกับบริเวณลานโล่งข้างไซต์

     โซนหลักในโครงการจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ข้างคือ Active และ Passive  
     โดยโซน Active จะประกอบด้วยส่วนของสนามกีฬาบาสเก็ตบอล สนามแบดมินตัน ลานแอโรบิค โรงยิม ลานกีฬาเอ็กซ์ตรีม และสระว่ายน้ำ
    
สนามกีฬาบาสเก็ตบอลและแบดมินตัน

   โซน Passive จะประกอบด้วยห้องสมุด ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสระว่ายน้ำ แต่ถูกกั้นด้วยน้ำตกที่สร้างขึ้นมาเพื่อกั้นระหว่าง 2 โซน สนามเด็กเล่น ชุมนุมต่างๆ ลานเวทีดนตรี อาคารบริหาร และศาลากลางชุมชน

  โซน Passive ประกอบด้วย อาคารชุมนุมต่างๆ(บน) ศาลากลาง(ซ้าย) สนามเด็กเล่น (ขวา) และเวทีดนตรี

สนามเด็กเล่น




















 

PROJECT 2011/2 Campus

CAMPUS PROJECT
   
     โปรเจคการออกแบบมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี วิทยาเขตมุกดาหาร เป็นโปรเจคแรกของปี3 เทอม2 โดยจากการวิเคราะห์พื้นที่มาแล้วพบว่าจังหวัดมุกดาหารมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย มีบริเวณพื้นที่ติดกับแม่น้ำโขง และประชากรส่วนใหญ่ทำอาชีพเกษตรกรรม อีกทั้งภาคอีสานนั้นประชากรส่วนใหญ่มีอาชีพหลักคือเกษตรกรรม แต่มีปัญหาใหญ่คือการขาดแคลนน้ำ จึงเกิดแนวคิดที่ว่า "มหาวิทยาลัยแห่งนี้ควรเป็นมหาวิทยาลัยที่เน้นการเรียนรู้เรื่องน้ำ มีการใช้น้ำอย่างเกิดประโยชน์และมีความคุ้มค่า" 

ไดอะแกรมการหมุนเวียนน้ำ สีชมพูคือน้ำเสีย สีม่วงคือน้ำดี

พื้นที่บำบัดน้ำเสียธรรมชาติ พื้นที่วิจัยเกษตรและประมง (อาคารสีน้ำเงิน)
พื้นที่ผลิตน้ำประปา (อาคารสีส้ม) และกลุ่มอาคารบริเวณคณะเกษตร

    การเก็บน้ำโดยหลักนั้น คือการขุดแหล่งน้ำขนาดใหญ่หนึ่งจุดบริเวณทางน้ำหลัก และอีกสองจุดคือการขยายพื้นที่บ่อน้ำเดิมให้ใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับปริมาณน้ำที่จะไหลลงจากเขา ก่อนจะปล่อยตามธารน้ำเพื่อไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำหลักต่อไป

แนวแกนหลัก ที่ยิงจากอาคารเรียนรวมสู่ยอดเขา 
โดยรายล้อมด้วยอาคารศูนย์กลางการเรียน

     น้ำที่ใช้แล้วจากการอุปโภคบริโภคต่างๆ และการเกษตร จะถูกส่งออกไปยังพื้นที่บำบัดน้ำเสียตามธรรมชาติ และปล่อยออกสู่พื้นที่การเกษตรบริเวณทิศเหนือของไซต์เพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป อีกทางถูกส่งมาตามเส้นทางน้ำที่เลียบทางเดินหลักของบริเวณศูนย์การศึกษา โดยใช้วิธีการบำบัดโดยใช้กังหันเติมอากาศ และแนวคิดน้ำดีไล่น้ำเสียของในหลวง เพื่อให้นักศึกษาที่ใช้เส้นทางได้เรียนรู้วิถีการบำบัดน้ำโดยวิธีธรรมชาติไปในตัว

ส่วนศูนย์กลางการศึกษา พื้นที่ห้องสมุดที่ติดกับอ่างเก็บน้ำ(ซ้าย) 
และพื้นที่นั่งอ่านหนังสือยนอกอาคาร (ขวา)

     พื้นที่ในส่วนศูนย์กลางการศึกษา ถูกออกแบบให้รถยนต์สามารถเข้าได้เมื่อมีความจำเป็นเท่านั้น โดยถนนเส้นหลักจะมีเพียงเส้นเดียว และแจกไปยังคณะต่างๆที่จะมีพื้นที่ติดกับตัวถนนหลัก พื้นที่ด้านในจะใช้การสัญจรโดยการเดินเท้าและรถจักรยานเป็นหลัก

พื้นที่บริเวณส่วนบริการเกี่ยวกับสนามกีฬา ประกอบด้วยสนามกีฬาต่างๆ โรงยิม (ซ้าย) 
และสวนสุขภาพ (ขวา) ที่มีพื้นที่ติดกับแปลงพืชสวน

     พื้นที่สำหรับการให้บริการชุมชนถูกจัดวางไว้บริเวณด้านหน้าโครงการ เพื่อความสะดวกและเป็นสัดส่วน บุคคลภายนอกจะสามารถเข้าถึงได้โดยไม่ต้องเข้าไปรบกวนบริเวณภายใน ซึ่งประกอบด้วยส่วนสนามกีฬาต่างๆ และส่วนศูนย์บริการชุมชน

 ส่วนบริการชุมชน และหอประชุมใหญ่ (ซ้าย) 
และส่วนอาคารหอพักนักศึกษา บุคลากร และบ้านอาจารย์ (ขวา)

      อุปสรรคของการทำงานชิ้นนี้ เริ่มด้วยการใช้คอมพิวเตอร์ทำงานซึ่งเป็นเหตุให้ไปปริ้นเกือบไม่ทัน เพราะว่าคอมเกิดดับไปสองรอบ ทำให้ไฟล์งานต้องถูกทำซ้ำใหม่ นอกจากนั้นแล้วตอนไปปริ้นงานก็ยังเอางานเก่าไปปริ้น ทำให้เส้นทางคลองบำบัดน้ำถูกสลับตำแหน่ง แต่ไม่เป็นปัญหามากนักเพราะได้ชี้แจงอาจารย์ในช่วงการพรีเซนต์แล้ว 
     โดยรวมถือว่างานนี้ค่อนข้างพอใจ แต่ยังขาดเรื่องดีเทลที่มีความละเอียดไม่มากพอ ยังต้องพัฒนาอีกในงานต่อๆไป

















Art of living with other

ART OF LIVING WITH OTHER PROJECT

    คราวนี้เป็นวิชาที่ไม่ใช่ของคณะ เป็นวิชาเลือกเสรีนะครับ ชื่อวิชาก็คือ Art of living with other เป็นวิชาที่สอนการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น ส่วนผลงานที่ต้องทำสำหรับวิชานี้ก็คือการนำเสนองาน โดยไม่กำหนดรูปแบบวิธีการ เป็นการบอกเล่าวิธีการ การอยู่ร่วมกันกับผู้อื่น



    งานนี้เป็นงานกลุ่มครับ ก็เลยเลือกที่จะพากย์การ์ตูนกัน โดยที่เลือกมาเป็นการ์ตูนของมุนินฺ โดยทำหลายๆเรื่องมาช่วยกันเลือกคนละเรื่อง แล้วก็ได้ออกมาเป็น 5 เรื่องด้วยกัน แล้วก็ให้เพื่อนที่เก่งเรื่องอัดเพลงอัดเสียงมาช่วยทำด้วย แล้วเราที่เป็นคนเดียวที่ตัดต่อเป็นตอนนั้นก็เลยรับหน้าที่นี้ไป สนุกมากครับ คงเป็นเพราะตอนนั้นเป็นการเรียนซัมเมอร์ ไม่มีวิชาในคณะ ทุกคนก็เลยไม่ค่อยเครียดจนออกมาได้เป็นผลงานอย่างที่เห็น ติชมกันได้นะครับ ^^

PROJECT 2010/2 - Computer

    หัวข้อนี้เป็นโปรเจคในวิชาคอมพิวเตอร์สมัยปี2 เรียนเกี่ยวกับโปรแกรม Sketch up แล้วก็ Auto CAD ลองดูนะครับ  
    
SKETCH UP PROJECT
   
Playground 


    สนามเด็กเล่น เป็นงานแรกที่เริ่มเรียน คืออาจารย์จะสอนวิธีทำศาลา แล้วก็ให้เด็กไปโหลดพวกเครื่องเล่นมาวางๆให้ดูเป็นสนามเด็กเล่น ด้วยความที่เพิ่งทำเป็นเราก็เลยโหลดมาซะเต็มที่ สุดท้ายเครื่องก็ค้าง ต้องมานั่งลบทีละอัน จนออกมาเป็นแบบนี้ น่ารักดีเนอะ ^____________^



PARK

    หลังจากผ่านสนามเด็กเล่นเล็กๆมา ก็มาเริ่มกันต่อที่สวนสาธารณะ คือจะบอกว่ามันค้างยิ่งกว่าตอนสนามเด็กเล่นเพราะว่าเป็นงานที่ต้องโหลดนู่น นี่มาใส่เยอะแยะ 
 
 แปลนที่อาจารย์ให้มาแล้วให้ดราฟตาม

    วิธีการของเราคือพวกต้นไม้ ก้อนหินจะทำเองเพราะมันจะไม่ค่อยหนักโปรแกรมเท่าไหร่ โหลดเอาเท่าที่จำเป็น พวกที่มันยากจริงๆและเสียเวลาก็ค่อยโหลดมา เพราะหลักๆงานนี้ส่งตัว Animation

 
 Animation ของสวนสาธารณะ ใช้ Sketch Up ก็ช่วยพรีเซนต์ได้เหมือนกันนะ

    และเพราะงานนี้ก็เลยเริ่มทำสเก็ตอัพเป็นจากเดิมเยอะ แต่ก่อนอาศัยแค่เอาไว้ตีโครงเพื่อดราฟตีฟ ตอนนี้สามารถทำเป็นแอนนิเมชั่นได้บ้างแล้ว


FINAL PROJECT


    ไฟนอลโปรเจคของวิชาคอมพิวเตอร์ คือการออกแบบที่พักรถโดยใช้ Auto CAD และ Sketch Up
แล้วก็นำมาตกแต่งลงเพลตใน Photoshop งานนี้ก็เลยตกแต่งสนุกสนานกันไปตามระเบียบ ทำชิวๆเพราะเป็นงานสุดท้ายของปีแล้ว ไม่ต้องเครียดว่าจะต้องมีงานอื่นต่อ


    สำหรับแผ่นนี้ก็เป็นแผ่นตีฟกับรูปด้านต่างๆ งานนี้ก็หมุนกันสนุกสนานเลย ใช้มุมนู่นบ้าง มุมนี้บ้าง
สำหรับเพลตที่ออกเป็นสีชมพูก็เพราะอยากลองว่าถ้าเพลตออกมาแนวนี้จะเป็นไงบ้าง ผลก็คือมันตลกดูหวานเกินไป 55555 แต่ก็นะ เข้ากับสีท้องฟ้าในโปรแกรมดี เปลี่ยนสีกลับไม่เป็นด้วยเพราะตอนเลืิอกก็กดไปมั่วๆ

PROJECT 2009/2

Introduction to Architecture
Di Playground

   ผลงานชิ้นแรกเมื่อเข้าสู้ปี1 เทอม2 เป็นการเปิดตัวที่ไม่ดีอีกเหมือนเดิม มีดราม่าเล็กน้อยก่อนทำงานเพราะคิดไม่ออก มองไม่เห็นภาพและแนวทางในการทำงาน แต่ก็ได้เพื่อนๆคอยให้กำลังใจ ช่วยคิด งานนี้เลยสำเร็จไปได้ ต้องขอบคุณจริงๆ :) 


ARCHITECTURE FROM NATURE
Peafowl free fowl

   งานนี้คือการออกแบบที่พักผ่อน โดยลดทอนรูปร่างจากสัตว์ที่เลือกมา ซึ่งก็คือนกยูง เป็นงานคู่ที่ประคับประคองกันไปได้จนรอดฝั่ง เนื่องจากบ้านของเพื่อนและตัวเราเองอยู่ไกลจากคณะ ก็เลยต้องใช้วิธีแยกกันไปทำแล้วเอามาประกอบกัน


GREENERY CAFE PROJECT
Take Me Take a Photo

    โปรเจคร้านขายต้นไม้และเครื่องดื่ม ตั้งอยู่บรเวณสยามสแควร์ ออกแบบให้มีสีสันสวยงามสดใสเข้ากับสถานที่ และโทนสีฟ้ายังช่วยทำให้รู้สึกเย็นสบายเหมาะกับการนั่งเล่น โดยมีมุมถ่ายรูปต่างๆจัดไว้ให้ เพื่อรองรับลูกค้าวัยรุ่น


ฺBIKE TO BOAT PROJECT
Modern modify

    โปรเจคออกแบบที่อยู่อาศัยขนาดเล็ก บริเวณป่าชายเลน โดยจับคู่กับเพื่อนและถามความต้องการในการใช้พื้นที่เสมือนว่าเพื่อนเป็นผู้อาศัย โจทย์ที่ได้มาครั้งนี้คือ เป็นบ้านแบบไทยๆแต่มีความทันสมัย ดูโล่งๆโปร่งๆ อยู่แล้วสบาย ไม่ต้องมีห้องมาก 
    งานนี้เป็นงานที่ทำแล้วรู้สึกสนุกเพราะ ทำไปได้เรื่อยๆเพลินๆ เนื่องจากเพื่อนและเราค่อนข้างจะชอบเหมือนกัน เราเลยคิดซะว่าตัวเองเข้าไปอยู่ในบ้านนั้นซะเลย

   และโปรเจคนี้ก็ยังเป็นโปรเจคที่เราเลือกทำเป็นพอร์ตเพื่อไปพรีเซนต์ เลือกอาจารย์ตรวจแบบตอนขึ้นปี2 ก็อย่างที่ว่าเป็นงานที่ภูมิใจมากเพราะทำออกมาแล้วสวยกว่าที่คิด แถมยังเสร็จก่อนเวลาตั้งนาน


ฺWEAKEND HOUSE PROJECT
Grand on ground


   ไฟนอลโปรเจคเทอมนี้เป็นการออกแบบบ้านพักริมทะเล คอนเสปก็ประมานว่าเป็นเรือไททานิค สนองความรักโรแมนติกของเจ้าของบ้าน เป็นโปรเจคที่เสียเวลาทำเยอะไปหน่อยเพราะมัวแต่เล่น และดูทีวีไปพร้อมกับทำงาน










PROJECT 2009/1

MY LITTLE PROJECT
Send water to world.
   โปรเจคนี้เป็นโปรเจคแรกของชีวิตการเป็นนิสิตสถาปัตย์ของผม เป็นงานที่เราต้องออกแบบโดยตีความจากสารคดี GLOBAL WARMING ออกแบบโดยใช้แนวความคิด "ลด(รด)โลกร้อน" ผลงานจึงออกมาเป็นบัวรดน้ำที่กำลังหยดน้ำลงบนโลกใบเล็กๆของเราที่กำลังเริ่มเป็นสีแดงเพราะความร้อน หยดน้ำที่หยดลงไปจะทำให้ต้นไม้บนโลกเติบโตแข็งแรง เป็นการช่วยลดความร้อนของโลกวิธีหนึ่ง 
   วัสดุที่ใช้ในการทำงานนี้ คือวัสดุที่เก็บได้เองเกือบทั้งหมด เป็นการช่วยลดโลกร้อนไงครับ :)


DOT-LINE-PLANE PROJECT
Time after time.

     นี่มันงานเผาชัดๆเลย 555 เป็นงานที่ให้เลือกภาพมา และสื่อสารออกมาด้วยการใช้จุด เส้น และระนาบ เป็นงานที่ทำไม่ทันก็เลยแถไปกับแนวคิดที่ว่า เราทุกคนมีเวลาอยู่กับตัวเท่าๆกัน เวลาของบางคนเกี่ยวข้องกัน บางคนแยกจากกัน ควรใช้เวลาที่มีอยู่ให้ดีและคุ้มค่าที่สุด

   อันนี้เป็นส่วนของ LINE สื่อออกมาในรูปของนาฬิกาที่เข็มนาฬิกาดันออกไปนอกกรอบ สื่อถึงว่าเราไม่สามารถที่จะเก็บหรือหยุดเวลาได้ 


    สุดท้ายคือส่วนของ PLANE อันนี้ผิดโปรแกรมเพราะว่ามีการใช้้ LINE เข้ามาประกอบด้วยก็เลยเอฟไปตามระเบียบ ทำเป็นรูปนาฬิกาทรายที่แตก ก็อย่างที่บอกเราไม่สามารถเก็บเวลาได้

DOT-LINE-PLANE PROJECT
Reflection



   โปรเจคต่อมาก็ยังคงเป็นจุด เส้น ระนาบตามเคย งานนี้เป็นงานที่เลือกภาพมา แล้วสื่อเหมือนเดิมโดยเลือกเอาว่าจะใช้หัวข้ออะไร สำหรับที่เลือกมาก็คือจุดกับเส้น ภายใต้คอนเสปของการสะท้อนที่ว่า ภาพสะท้อน ฉายในสิ่งที่เห็นแต่ไม่ได้ฉายสิ่งที่เป็น



   เช่นกันกับภาพนี้เป็นแนวคิดเดียวกัน แต่ต้องใช้ทั้งสามหัวข้อในภาพเดียวกัน โดยเลือกใช้หลักการจัดองค์ประกอบแบบการซ้ำ สะท้อนเอาต้นไม้ที่แห้งแล้งลงไปบนน้ำ แน่นอนว่าพอมีน้ำต้นไม้ก็ต้องเติบโต เขียวชอุ่ม ไม่แห้งแล้งเหี่ยวเฉา

SHAPE&FORM PROJECT
Teacher day
   


   เป็นโปรเจคที่ทำในช่วงไหว้ครู โดยสื่อถึงครูออกมาในแบบของรูปทรง และรูปร่าง ภาพแรกเป็นริ้บบิ้นบนเสาสูงใช้แนวความติดที่ว่า แม้มองไม่เห็นหรือไม่มีใครสนใจ ริ้บบิ้้นที่ติดอยู่บนเสาสูงก็ยังคงทำหน้าที่ของมัน ยังคงทรทานต่อแดดลมฝน และภาพที่สองเป็นเขาวงกต เพื่อสื่อแนวความคิดที่ว่า ถึงแม้ว่าครูคือผู้สร้างหนทางให้เรา แต่สุดท้ายแล้วเราก็ยังต้องเลือกว่าเราจะก้าวไปทางไหนด้วยตัวเอง

COLOR WHEEL PROJECT
Procedure


   การสร้างวงจรสีโดยใช้แนวความคิดของลำดับขั้นของสี เรียงจากด้านในขยายออกมาด้านนอก ได้บีบวกด้วย เป็นงานแรกเลยที่ได้เยอะขนาดนี้ 5555

MEANING OF COLOR PROJECT
Opposite Meaning

 ความไม่แน่นอน

ความมั่นคง

    ภาพแรกเป็นการใช้สีที่ใกล้เคียงกัน สื่อออกมาโดยใช้แนวคิดความไม่แน่นอน ตรงข้ามกับรูปที่สองที่เป็นความมัั่นคงโดยใช้สีคู่ตรงข้าม โดยใช้เทคนิคการลดความสว่างของสีด้วยการผสมสีขาว


CUBISM PROJECT
KU Talai Bus
    รถตะลัยแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในแบบคิวบิสซึ่ม จริงๆสามารถพรีเซนต์เป็นแบบอิมเพรสชั่นนิสก็ได้ แต่ด้วยสกิลฝีมือการวาดรูประบายสีที่ต้อยต่ำ ก็เลยเลือกทำคิวบิสซึ่มดีกว่า


THIS IS ME PROJECT MUSIC BOY

    เป็นงานที่พรีเซนต์ความเป็นตัวเอง ก็เลยเลือกใช้โทนสีที่ตัวเองชอบ และยังเป็นสีที่สื่อถึงความสนุกสนาน ดังนั้นจึงสร้างออกมาเป็นรูปแบบของตัวคนผสมโน้ตดนตรี เพราะคิดว่านี่แหละที่บอกความเป็นตัวเองชัดสุด เริงร่าเกินไปในบางที และชอบดนตรีมาก

LOGO PROJECT
Monochrome Animal Logo

 บ้านนกเงือก
 ปล่อยเต่าคืนทะเล
LOGO PROJECT
Logo of Arch KU

 ร้านเครื่องเขียน
  ห้องพยาบาล
 ห้องพักผ่อน
   ภาพทั้งหมดเป็นโทนสีเขียวคือ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และสแทรกตราประจำคณะลงไปในโลโก้เพื่อแสดงความเป็น สถาปัตย์เกษตร



MEMORIZING COLUMN PROJECT
With Love for A12



    เป็นโปรเจคงานกลุ่มที่ให้ออกแบบเสาเพื่อสร้างเป็นประติมากรรม สำหรับให้พี่บัณฑิตสามารถเข้ามาถ่ายรูปที่ระลึกในวันรับปริญญาได้ แนวคิดคือการสื่อให้รู้สึกมาเที่ยวทะเล ได้มาพักผ่อน การใช้สีจึงเป็นสีคู่ตรงข้ามที่สื่อถึงทะเลและชายหาด โดยลวดลายบนเสาก็เป็นการนำวัสดุต่างๆมาแต้มลงไป เป็นการซ้ำกันเรื่อยของเทกเจอร์ โดยคนในกลุ่มสามารถเลือกใช้ได้คนละ1ชนิด โครงสร้างของเสาถูกทำให้ติดกันด้วยการใช้ JOINT ในการขัดและแทงทะลุกัน และรับน้ำหนักด้วยตัวของกันและกัน

PAINT FROM MUSIC PROJECT
Dancing Flower
   เป็นโปรเจคที่ให้ฟังเพลง และวาดภาพออกมาตามที่จินตนาการ โดยให้เลือกเทคนิคประเภทรูปร่างสองอย่าง การจัดประกอบ1อย่าง และเทคนิคการใช้สี1อย่าง ที่ได้วาดออกมาคือภาพของฝนเมล็ดพันธุ์ที่หยดลงมาในหมวกเวทมนต์ และเกิดเป็นดอกไม้เต้นระบำขึ้น ใช้เทคนิครูปร่างธรรมชาติและเรขาคณิต เทคนิค Color Value และเทคนิคการซ้ำกันขององค์ประกอบ(บริเวณที่เป็นฝนเมล็ดพันธุ์)


   และนี่คือโมเดลที่เป็นงานที่พัฒนาต่อจากงานที่แล้ว โดยนำรูปร่างใดรูปร่างหนึ่งในงานมาประกอบขึ้นเป็นชิ้นงานสามมิติ งานนี้ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าไหร่เนื่องจากความยากของรูปร่างที่เลือกมา และการคิดการต่อที่ไม่ดีนัก รวมถึงงานมีความแบบมากเกินไป ผิดกับที่คิดไว้ให้เป็นรูปทรงดอกไม้ สรุปคือ งานนี้มีแต่พลาดกับพลาด ถือเป็นงานโมเดลที่เริ่มต้นไม่ดีนัก ตอนนั้นมีแต่คนบอกว่าคงต้องพัฒนากันอีกเยอะ 5555 แต่จริงๆแล้วมันไม่แย่เท่าในรูปนะครับ ที่ถ่ายมาได้นี่คือตอนที่มันเกือบจะกลายเป็นซากอยู่บนสตูดิโอแล้ว

FINAL PROJECT
Furniture in Trend



   ไฟน้อลโปรเจคงานคู่ เป็นถังขยะสำหรับแยกภาชนะใส่เครื่องดื่มที่ตั้งอยู่ส่วนกลางคณะ งานนี้มีคอนเสปคือการเป็นรวงผึ้ง ขยะที่ถูกทิ้งลงในช่องรูปวงกลมคือขวดขนาดต่างๆที่จะถูกแยกภายหลัง นอกจากนี้ด้านหน้ายังเป็นแท่งหลอดสำหรับเก็บแก้วน้ำที่ใช้แล้ว เป็นงานที่ค่อนข้างประสบผลสำเร็จพอสมควรเนื่องจากสามารถนำมาพัฒนาต่อได้ อุปสรรคหลักๆในการทำงานชิ้นนี้คือทำอยู่ที่คณะแล้วเกิดไฟดับจึงต้องขนกลับมาที่บ้าน และเนื่องจากว่ามีขนาดใหญ่มากขึ้งขนกลับมาลำบาก



.....................................................................





จบไปแล้วกับโปรเจคปี1 เทอม1 ยังง่อยอยู่เนอะ บอกแล้วว่ายังต้องพัฒนาอีกเยอะ (จนถึงตอนนี้ก็ไม่ได้พัฒนาไปเท่ไาหร่เลย 5555) เห็นงานตอนสมัยนั้นแล้วก็อยากจะกลับไปแก้นะ รู้สึกมีไอเดียเยอะแยะเลย

แล้วเจอกันใหม่ครับ ^_________^